วันพุธที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ทำชีวิตให้มีความสุขกันเถอะ

เวลาของแต่ละคนมีไม่เท่ากัน หากทำชีวิตให้จมทุกข์ ไม่มีใครเจ็บปวดเศร้าหมองเท่ากับตัวเราเลย
ชีวิตคนไม่มีใครสมบูรณ์ครบถ้วนไปทุกอย่าง หากเราไขว่คว้าหาทุกอย่างเท่า ๆ กับคนอื่นเขาไม่ใช่เรื่องแปลก
แต่ทุกครั้งที่มีเวลาอยู่กับตัวเอง ก็จงหาสิ่งบันเทิงเหมือนการชาร์ทแบตเติมพลังงานให้มีแรงไว้สู้กับเรื่องราว ต่อไป
ถ้าเราไม่ปล่อยตัวเองท้อแท้ เศร้าหมอง หดหู่ไปกับปัญหารอบตัว ตึงนักก็ปล่อยวางเสียบ้างไม่ตายหรอก
ค่อย ๆ คิดหาทางทำให้มันดี ถึงจะค่อยทำ แต่ก็คงเห็นผลซักวัน
มองปัญหาชีวิตให้เป็นเรื่องท้าทายความแกร่งกล้าของตัวเรา
หาเพื่อนช่วยคิดช่วยแก้ หัวเราะร่าเริงอยู่กับคนที่เรารัก
เวลาของเรายังมี โอกาสของเรายังอยู่ อดทนต่อสิ่งทั้งหลาย
อันไหนที่ทำเต็มที่แล้วยังไม่ได้ก็ปล่อยไปเถอะ
นึกเสียว่าของถ้าไม่ใช่ของเรา ก็มักจะมีเหตุให้สูญเสีย และผิดพลาดเสมอ
หากเป็นของของเรา ร้อยวันพันปีอย่างไรสิ่งนั้นก็ต้องได้ต้องเป็นของเราเสมอ
......ทำชีวิต วันนี้ วันหน้า และวันไหนให้มีความสุขและดีที่สุดเถอะ....

ฝากความสุขไว้กับตัวเราเอง

วันนี้ได้เห็นเพื่อนๆที่ทำงานเพิ่งจะมีคนรัก ดูท่าทางเขามีความสุขกับการที่มาเล่าให้ฟัง

ว่าคนรักเขาเอาใจอย่างนั้น เอาใจอย่างนี้ เห็นแล้วก็เข้าใจถึงความรู้สึกนั้นดี

ทั้งๆที่เขาอายุ 40 กว่าแล้ว แถมติดเชื้ออีกต่างหาก แต่ก็ยังมีคนรักและมีแฟน ก็ดีใจกับเขาที่เขามีความสุข

แต่อีกใจหนึ่งก็คิดถึงสัจธรรมของโลกมนุษย์ที่ว่า ความแน่นอนก็คือความไม่แน่นอน ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ไม่เว้นแม้กระทั้งใจเราเอง วันนี้ถ้าเราเอาความสุขของเรา ไปฝากไว้กับใครคนใดคนหนึ่ง วันข้างหน้าถ้าคนนั้นเปลี่ยนไป ความสุขที่มีในตอนนี้ ก็จะกลายเป็นความทุกข์อย่างสาหัสในวันหน้า ในความเป็นจริงทุกสิ่งในโลกมนุษย์ ไม่มีอะไรที่คาดหวังได้เลย แม้กระทั้งใจเรา

ใจเรา ถึงจะเปลี่ยนแปลงไปได้ตามกาลเวลา แต่กว่าจะเปลี่ยนไป มันก็ยังพอทำใจได้ถึงการเปลี่ยนแปลง เพราะการเปลี่ยนแปลงมันเกิดขึ้นกับใจเราเอง เราย่อมรู้ว่ามันจะเปลี่ยนแปลง แล้วก็ไม่ยากที่จะยอมรับ ต่างจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับใจของคนที่เราฝากความสุขไว้ มันสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้ทุกเวลา โดยที่เราไม่รู้และไม่ทันตั้งตัว แล้วเมื่อถึงวันนั้น เราก็ยากที่จะยอมรับ สุดท้ายก็กลายเป็นความทุกข์

วันนี้ ถึงแม้จะไม่มีใคร ไม่มีความสุขเท่ากับคนที่กำลังมีความรัก แต่อย่างน้อยที่สุด เราก็ยังมีความสุขในการอยู่กับตัวเองได้ในทุกวัน

ในทุกวัน ถ้าความสุขของเรา ฝากไว้กับใจเราเอง เราสามารถกำหนดความสุขของตัวเอง ได้อย่างง่ายดายในทุกๆวัน

เช่น วันนี้เราอยากไปดูหนัง เราก็ได้ไปดูหนัง ไม่ต้องรอให้ใครมารับ หรือ รอให้ใครไปนั่งดูด้วย

วันนี้ เราอยากจะไปกินอาหารญี่ปุ่นหรูๆ อร่อยๆ เราก็ไปเองคนเดียว ไม่ต้องรอให้ใครว่างเพื่อจะปนั่งด้วยกัน แค่เราว่างคนเดียว เราก็ไปได้เลย มีความสุขได้เลย

จริงอยู่ ถึงแม้มันจะเป็นความสุข ที่ไม่โลดโผน ที่ไม่หวือหวา เป็นความสุขแบบเรียบๆง่ายๆ แต่ก็เป็นความสุขแบบยั่งยืนถาวรที่เราสามารถกำหนดได้เอง ทุกวัน และ ทุกเวลา เพราะเรา ไม่ได้เอาความสุขของเรา ไปฝากไว้กับใคร แต่ความสุขของเรา เราฝากไว้กับความคิดของเรา การกระทำของเรา เรากำหนดมันได้อย่างง่ายดายในทุกๆวัน

ผิดกับหลายๆคน ที่เอาความสุขไปฝากไว้กับคนนั้น คนนี้ เมื่อคนที่เราฝากความสุขทำตามใจเรา เราก็จะสุขแบบโลดโผนหวือหวา สุขแบบมองฟ้ามองดินก็เป็นสีชมพู

แต่วันใดวันหนึ่ง ถ้าคนที่เราฝากความสุขไว้ทำอะไรไม่ได้อย่างใจ ทั้งฟ้าและดินในสายตาเราก็จะลุกเป็นไฟ เผาผลาญจิตใจเราทันที

ค้นพบความสุขแท้จริงจากภายในใจของคุณ ด้วยตัวคุณเอง

ใบ หน้าของคนที่กำลังมองหาความสุขนั้นปรากฏอยู่ทุกแห่งหน แววตาที่มีความหวังและสิ้นหวังที่จะได้ประสบพบเจอกับสิ่งที่เรียกว่าความ สุขมีให้เห็นอยู่เสมอๆ “ความสุข” สิ่งนี้มันคืออะไรกันนะ? ถึงได้ส่งอิทธิพลต่อทุกๆคนได้มากมายเช่นนี้ ในเมื่อทุกๆคนต่างตะเกียกตะกาย ขวนขวายทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ความสุขมาครอบครอง แม้เพียงชั่วระยะเวลาหนึ่ง

แต่น่าแปลกใจที่ไม่มีใครบอกได้เลยแม้เพียงสักคนว่า “ความสุข”หน้าตามันเป็นอย่างไร? เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม ความรู้สึกปลาบปลื้ม ตื้นตันใจ มันใช่ความสุขหรือเปล่า? หรือเป็นแค่ตัวแทนของความสุขที่คิดกันเอาเอง แม้แต่ในทางวิทยาศาสตร์ก็มีการค้นพบว่าการหลั่งเอนดอร์ฟิน Endorphin ทำให้เกิดความสุขหรือที่เรียกกันว่าสารแห่งความสุข ถ้าหากลองสังเกตไปถึงศาสตร์แขนงต่างๆจะพบตัวแทนของความสุขที่หยิบยกขึ้นมา ดูเหมือนว่าทุกคนทำได้เพียงแค่เข้าใกล้สิ่งที่เรียกว่าความสุข แต่กลับไม่มีใครไปถึงความสุขที่แท้จริง


จิตวิทยา เป็นศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับจิตใจ ซึ่งคือสิ่งที่เป็นนามธรรมในเมื่อไม่มีใครมองเห็นจิตใจใครได้การอนุมานจาก พฤติกรรมที่สังเกตจึงเป็นวิธีศึกษาที่สำคัญ และจิตวิทยาคือศาสตร์ที่เข้าใกล้ความสุขได้มากที่สุดแม้ว่าจะไปไม่ถึงอยู่ ดี ตั้งแต่ผมศึกษาจิตวิทยามาไม่เคยมีอาจารย์ท่านใดบอกว่าความสุขคืออะไร แล้วจะหาความสุขได้จากไหน ทั้งๆที่เรียนจบมาก็จะต้องมีความรู้มากพอที่จะช่วยให้คนอื่นมีความสุขได้แต่ ถ้าหากไม่รู้ว่าความสุขคืออะไรแม้แต่จะทำให้ตัวเองมีความสุขยังเป็นเรื่อง ยาก เหมือนความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด


แต่ หลังจากได้คิดถึงสิ่งที่เรียนไปมากมายแล้ว ย้อนมองกลับมาดูตัวเองก็พบถึงความแตกต่างว่ามุมมองที่เราใช้มองตัวเอง มองคนมันเปลี่ยนไปเมื่อเทียบกับก่อนที่จะมาศึกษาจิตวิทยา แล้วคำตอบของคำถามที่ว่าจะหาความสุขได้จากไหนก็ปรากฏขึ้นมา

ถาม : ถ้าเช่นนั้น จะหาความสุขได้จากไหนล่ะ?
ตอบ : ได้จากทุกๆที่ รอบๆตัวเรานั้นคือความสุข ความสุขเกิดจากความเข้าใจในสิ่งต่างๆ

เหมือน เช่นทุกวันนี้ที่เรามองหาความสุขจากภายนอก เมื่อค้นพบก็หยิบเข้ามาใส่ตัว ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า เงินทอง ชื่อเสียง หรือแม้กระทั่งคนรัก ซึ่งความสุขเหล่านี้มาจากภายนอกมันก็จะกลับคืนสู่ภายนอกเช่นกันเมื่อหมด เวลา คนเราจึงต้องมองหาความสุขมาเติมเต็มอยู่ตลอดเวลา

ทั้งๆที่ความ จริงแล้วความสุขอยู่ติดตัวเรามาตลอด ความสุขไม่ใช่สิ่งที่ต้องมองหาจากภายนอกเสมอไปทว่าอยู่ภายในใจของเราเพียง แต่เราไม่เคยที่จะมองเข้ามาที่ภายในใจของเราเลย


คน ที่มองหาความสุขจากภายนอกก็จะพบเจอความสุขจากภายนอก แต่ก็ต้องหมั่นหาความสุขเข้ามาทดแทนอยู่เรื่อยไป ทำไมถึงไม่ทำให้มันง่ายขึ้นล่ะ ทำไมไม่รู้จักใช้ความสุขจากภายในของตัวเราเอง ก็เพราะความสุขจากภายใน ไม่ใช่สิ่งที่จะค้นพบเจอได้ง่ายๆ แต่ถ้าพบเจอแล้วจะอยู่คู่กับคุณตลอดไป แล้วสิ่งที่เสมือนเป็นเครื่องมือช่วยค้นหาความสุขภายในตัวคุณก็คือ “จิตวิทยา”

ถ้าหากคุณเชื่อว่าไม่มีใครเข้าใจตัวคุณได้ดีไปกว่าคุณเอง จิตวิทยาจะช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองอย่างลึกซึ้งมากขึ้น และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือการเข้าใจผู้อื่นได้ดีกว่าเดิม ที่สำคัญที่สุดก็คือนิยามความสุขเฉพาะตัวที่คุณค้นพบ อะไรคือความสุขแท้จริง อะไรคือความสุขที่คุณต้องการ ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับคุณ ด้วยตัวคุณเอง

คุณค่าของความรัก

คุณค่าของการเกิดมามีชีวิตหนึ่งนั้น คือการได้รู้จักรักผู้อื่น แม้จะไม่ได้รับความรักตอบกลับมา ย่อมมีความหมายกว่าการที่เรากลัวความผิดหวัง กลัวเจ็บ กลัวเสียความรู้สึก จนไม่ยอมเปิดโอกาสให้ความรักเบ่งบานในหัวใจ

วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2552

หลักในการดำเนินชีวิต

1. ระลึกเสมอว่า การจะได้พบความรักและความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ก็ต้องประสบกับความเสี่ยงอันมหาศาลดุจกัน
2. เมื่อคุณแพ้ อย่าลืมเก็บไว้เป็นบทเรียน
3. จงปฏิบัติตาม 3Rs
3.1 เคารพตนเอง (Respect for self)
3.2 เคารพผู้อื่น (Respect for others)
3.3 รับผิดชอบต่อการกระทำของตน (Responsibility for all your actions)
4. งจำไว้ว่า การที่ไม่ทำตามใจปรารถนาของตนบางครั้งก็ให้โชคอย่างน่ามหัศจรรย์
5. จงเรียนรู้กฎ เพื่อจะทราบวิธีการฝ่าฝืนอย่างเหมาะสม
6. จงอย่าปล่อยให้การทะเลาะเบาะแว้งด้วยเรื่องเพียงเล็กน้อย มาทำลายมิตรภาพอันยิ่งใหญ่ของคุณ
7. เมื่อคุณรู้ว่าทำผิด จงอย่ารอช้าที่จะแก้ไข
8. จงใช้เวลาในการอยู่ลำพังผู้เดียวในแต่ละวัน
9. จงอ้าแขนรับการเปลี่ยนแปลง แต่อย่าปล่อยให้คุณค่าของคุณหลุดลอยจากไป
10. จงระลึกไว้ว่า บางครั้งความเงียบก็เป็นคำตอบที่ดีที่สุด
11. จงดำเนินชีวิตด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อที่ว่าเมื่อคุณสูงวัยขึ้นและคิดหวนกลับมาคุณจะสามารถมีความสุขกับสิ่ง ที่ได้ทำลงไปได้อีกครั้ง
12. บรรยากาศอันอบอุ่นในครอบครัวเป็นพื้นฐานสำคัญของชีวิต
13. เมื่อเกิดขัดใจกับคนที่คุณรัก ให้หยุดไว้แค่เรื่องปัจจุบัน อย่าขุดคุ้ยเรื่องในอดีต
14. จงแบ่งปันความรู้ เพื่อเป็นหนทางก้าวสู่ความเป็นอมตะ
15. จงสุภาพกับโลกใบนี้
16. จงหาโอกาสท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่คุณไม่เคยไป อย่างน้อยก็ปีละครั้ง
17. จำไว้ว่า ความสัมพันธ์ที่ดีที่สุด คือความรักมิใช่ความใคร่
18. จงตัดสินความสำเร็จของตนด้วยสิ่งที่ต้องเสียสละ
19. จงเข้าใกล้ความรักด้วยการปล่อยวาง
โปรดส่งมนตรานี้ต่อ ๆ ไปให้คนอื่นๆได้อ่าน

วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2552

วิธีการทำ blog header

Header blog เป็นภาพที่อยู่ด้านบนสุดของบล๊อกเราดังนั้นควรที่จะสื่อถึงความเป็นบล๊อกของ เราให้ได้มากที่สุด ดังนั้นใครจะเข้าใจได้ดีไปกว่าตััวเราเอง ดังนั้นในการให้ได้มาซึ่งภาพที่เหมาะสมและสวยงาม สำหรับคนที่ใช้โปรแกรมตกแต่งภาพไม่เป็นก็มี 2 วิธีให้เลือกคือ
  1. ดาวน์โหลด header สวยๆฟรี
    20 Beautiful Header Banner Design เป็น 20 ภาพที่สวยมากจริงๆของ rockstartemplate.com



    freewebpageheaders
    ส่วนเว็บนี้ก็มีให้เลือกมากมายหลายแบบซึ่งเค้าก็แยก catagory ไว้ให้แล้วด้วย

  2. นำภาพของตัวเองที่มีอยู่แล้วมาทำเป็น Header image ด้วย Blog header generator ซึ่งโปรแกรมนี้จะให้เราอัพโหลดรูปแล้วทำการตัดภาพของเราให้มีขนาดที่เหมาะสม ซึ่งเราเลือกที่จะให้เก็บส่วนไหนของภาพไม่ให้ถูกตัดออกไปก็ได้เช่น ตรงกลางภาพหรือด้านบนของภาพเป็นต้น แค่ 2 ขั้นตอนก็ได้ภาพแล้ว ง่ายมั้ยหล่ะ
ต่อ ไปก็เป็นเรื่องของคนที่ทำ Photoshop เป็นก็ทำ header image โดยเอารูปที่เรามีอยู่แล้วมาตกแต่งด้วย photoshop ให้ได้ขนาดที่ต้องการหรือ serch google รูปภาพ คำว่า blog header แล้วเอารูปมาเปรียบเทียบ ขนาดของภาพ หรือ ขนาด กำลังน่ารัก ก็ กว้าง 33.6 ซม. สูง 8.24 ซม. ส่วน resolution ของภาพไว้ที่ 72 pixel เพราะเป็นภาพที่ใช้กับหน้าจอ ความละเอียดเท่านี้ก็พอแล้ว แต่ต้องจำไว้ว่ายิ่งรูปใหญ่ก็จะทำให้หน้าบล๊อกของเราโหลดช้าไปด้วย จากนั้นก็ตัดต่อและตกแต่งภาพที่บ่งบอกถึงความเป็นเรา แล้ว อย่าลืม save เป็น jpg. หละ จาำนั้นก็ตกแต่งบล็อกได้เลย

ปล. ส่วน header image ของบล๊อกนี้ใช้ photoshop ทำแค่ตัดรูปภาพมาใส่ก็แค่นั้น

วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

บทความ "เพื่อน"

“เพื่อน….”
เพื่อน คือ คนแรกที่ทำให้เรารู้จักผู้อื่น เพื่อน คือ คนแปลกหน้าคนแรกที่ทำให้เรารู้จักความรัก นอกเหนือจากคนในครอบครัวที่เรารักกันมาตั้งแต่เกิด
เพื่อน ... โผล่หัวมาตอนโต ... เป็นใครไม่รู้ ... แล้วจู่ ๆ วันหนึ่งเราก็รักมันได้ ฉันมองความรักเพื่อน ...
เป็นความรักที่น่าเคารพยกย่อง แต่ต้องเป็นเพื่อนแท้ด้วยนะ
เพื่อน ... จะรักกันแบบพอดี ๆ ไม่หวง ... ไม่หึง ไม่ต้องการอะไรตอบแทน ... เรารักกันสบาย ๆ มีปัญหาปรึกษากัน มีเรื่องเดือดร้อนช่วยกัน ... มีอะไรไม่สบายใจปรับทุกข์กัน แต่ในขณะเดียวกันต่างคนต่างกมีโลกเป็นของตัวเอง เธอมีแฟนฉันไม่ว่า ... เธอสนุกของเธอไป เราต่างยินดีในความสุขของกันและกัน
ไม่ต้องมาเจอกัน ... ก็ยังห่วงกัน ... ยังคิดถึงกัน ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบอยู่เสมอ ถ้ามั่นใจว่าเจอเพื่อนแท้แล้ว ... เชื่อเถอะว่า ไม่ว่าเราจะห่างกันอย่างไร ... เราจะคิดถึงกัน และเราจะไม่มีวันเลิกคบกัน ... เพราะเธอไปมีเพื่อนใหม่ ต่างฝ่ายต่างมีเพื่อนใหม่ ... ก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ ... มันเป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไข



คนบางคนบอกว่า... คุยกับเพื่อนได้ทุกเรื่อง แต่คุยกับแฟน กับพ่อแม่ได้บางเรื่อง นี่แหละ... ที่มันเป็นความรักที่ประหลาด ... แต่งดงาม มันมีความเข้าใจ ...ไว้ใจ เชื่อใจในจุดสมดุล ลองเอาความรักแบบนี้ไปใช้กับคนอื่นดูบ้าง แล้วเราจะได้รับความรักตอบโดยไม่ต้องร้องขอเลย
นี่แหละ คือ เพื่อน
คุณเป็นเพื่อนกับใครหรือยัง?

ข้อดีของผ้าริ้ว

ข้อดีของผ้าขี้ริ้ว
1.ผ้าขี้ริ้วยอมสกปรก เพื่อให้สิ่งอื่นสะอาด เสน่ห์ของคนอยู่ที่ยอมลำบากเพื่อให้ผู้อื่นเป็นสุขเช่นพ่อแม่ยอมเหนื่อยลูกหลานสุขสบาย
2. ผ้าขี้ริ้วดูดซับความสกปรกได้ แต่ก็สลัดคราบสกปรกออกจากตัวได้ตลอดเวลา เสน่ห์ของคน อยู่ที่รู้ตัวเองว่าสกปรก มีข้อบกพร่อง มีข้อผิดพลาด และปรับปรุงแก้ไข
3. ผ้าขี้ริ้วเป็นผ้าที่สะอาดที่สุด ในขณะที่คนมองว่าสกปรกที่สุด เหมือนคนที่หมั่นฝึกหัดขัดเกลาตนเอง รู้จักถ่อมตนและอ่อนโยน ไม่โอหัง ไม่อวดดี เขาก็จะเป็นคนมีคุณค่า ไม่ว่ามาจากสกุลใด การศึกษามากหรือน้อยก็ตาม ทำตัวให้เป็นผู้ใฝ่รู้แต่ไม่อวดรู้เป็นเหมือนผ้าขี้ริ้วห่อทองให้ได้
4. ผ้าขี้ริ้วแม้นว่าเป็นผ้าที่ไม่มีราคา แต่ก็มีคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ได้ เหมือนคนที่พยายามทำตนเองให้มีคุณค่าด้วยการทำงานทำตน เป็นประโยชน์ให้มีค่าไม่งอมืองอเท้าน้อยเนื้อต่ำใจในวาสนาชะตาชีวิต
5.ผ้าขี้ริ้วไม่เกี่ยงงอนว่าจะถูกใช้เช็ดถูอะไร เหมือนคนที่อาสาทำงานที่ได้รับมอบหมายโดยไม่ปริปากบ่น ไม่ว่าจะเป็นงานใด ๆ ก็ตาม ตั้งใจทำโดยไม่เกี่ยงงาน
6. ผ้าขี้ริ้วถูกใช้งานในที่สกปรกที่สุด เหมือนคนที่ยอมทำในสิ่งที่คนทั้งหลายรังเกียจ ที่เขาเห็นว่าไร้ค่า เป็นงานชั้นต่ำ แต่ก็ตั้งใจทำ ยินดีบริการรับใช้ผู้อื่นรับใช้ สังคม ดีใจเมื่อคนยินดีมาใช้บริการความรู้ความสามารถของตน และยินดีที่จะเสนอตัวเข้าไปบริการมากกว่าที่จะคิดเข้าไปบริหารแปลว่าทำตัวให้เหมือนผ้าขี้ริ้วนั่นเอง
7.ผ้าขี้ริ้วพอใจที่ได้อยู่เบื้องหลังความสะอาด เหมือนคนต้องพอใจที่ได้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของคนอื่น ต้องมีความพอใจที่จะทำงานปิดทองหลังพระมีความสุขและภูมิใจที่มอบความสำเร็จให้แก่คนอื่น
8.ผ้าขี้ริ้วทนทานต่อการขัดถูและซักล้างไม่เปราะบาง เหมือนคนที่มีความอดทนไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคปัญหา แม้จะเหน็ดเหนื่อยเพียงใดก็อดทนได้ เพื่อให้สำเร็จประโยชน์สุขแก่ผู้อื่นมีจิตใจหนักแน่นไม่เปราะบาง
9.ผ้าขี้ริ้วแม้นจะถูกมองว่าเป็นผ้าขี้ริ้ว แต่ก็ไม่ทำตัวให้ขี้เหร่ เหมือนคนที่รู้ตนเองว่า มีคนกำลังปรามาสสบประมาท จะต้องตั้งใจ เอาชนะอุปสรรคตรงนั้นให้ได้ ไม่พ่ายแพ้ตามคำปรามาสของคนอื่น รู้ตัวตลอดว่ากำลังทำอะไรและให้มีกำลังใจในสิ่งนั้น
ที่สำคัญคือมองหาความสำคัญจากสิ่งที่คนมองไม่เห็นว่าสำคัญอย่างไรให้ได้ คือสามารถมองเห็นคุณค่าจากสิ่งที่คนทั้งหลายมองว่าไร้ค่า.......
**** ลองสำรวจคุณค่าในตัวคุณ ๆ แล้วรึยัง ****
ขนาดผ้าขี้ริ้วยังมีคุณค่ามากขนาดนี้ แล้วเราซึ่งเป็น มนุษย์ ที่พระเจ้าทรงสร้าง และสร้างตามภาพลักษณ์ของพระองค์เอง พระองค์ยังได้ลงมาเกิดเป็นมนุษย์ ยอมตายบนไม้กางเขนเพื่อช่วยพวกเราให้รอดไปสวรรค์ ไปอยู่กับพระเจ้าตลอดนิรันดร อย่างท้อแท้ในการดำเนินชีวิต แน่นอนชีวิตของเราต้องมีความยากลำบาก แต่เราต้องอดทน มีความเชื่อ มีความวางใจ มีความหวัง ในพระเยซูเจ้า เหมือนดังที่แม่พระมีความเชื่อ ความวางใจ ในพระเจ้าเสมอ แม้ชีวิตจะต้องประสบกับความยากลำบากต่าง ๆ นานาก็ตาม

วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ทัศนศึกษา ประเทศสิงคโปร


ประวัติส่วนตัว


ชื่อ เสาร์ นามสกุล ตนประเสริฐ ชื่อเล่น dowsao

เกิดวัน เสาร์ ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2520/1978

ทำงานอยู่ที่ โรงเรียนดรุณาราชบุรี 80 ถ.คฑาธร ต.หน้าเมือง อ.เมือง ราชบุรี 70000

ตำแหน่ง รองอธิการ

คำคม ชวนให้คิด

คำคม ชวนให้คิด
เก็บมาฝาก

ลูกคนจนข้นแค้นแสนจริต อาจแผลงฤทธิ์กลายเพศเป็นเศรษฐี
ลูกคนโง่อาจจะโผล่เป็นเมธี เหตุดังนี้ ไม่ควรหลู่ดูแคลนกัน

“นกน้อยหาไม้ดีทำรัง ลูกผู้ชายหานายดีสวามิภักดิ์
นกทำรังให้ดูไม้ ข้าเลือกนายให้ดูน้ำใจ”

“ไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่ชาติ ไม่ใช่เชื้อ แต่ถ้าเอื้อเฟื้อ ก็เหมือนเนื้ออาตมา”

“ที่นั่งที่ดีที่สุดในโลกนี้ คือ ที่นั่งในหัวใจคน” (ขงจื๊อ)

พระอาจารย์จันทร์ คเวสโก แห่งวัดป่าชัยรังษี สมุทรสาครเคยพูดคำที่น่าคิดว่า “นิ่งไม่เป็น เป็นอะไรไม่ได้” “จงอดทน เชื่อมั่น รอคอย และให้โอกาส”

“ผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ ผู้ที่ทำตนให้เล็กที่สุด และผู้ที่เล็กที่สุด ก็จะกลายเป็นผู้ที่ใหญ่ที่สุด”
“ผู้ที่มีเกียรติ คือ ผู้ที่ให้เกียรติผู้อื่น และผู้ที่ให้เกียรติผู้อื่น จึงเป็นผู้ที่ผู้อื่นให้เกียรติ”

“เล่นหมากรุก อย่าเอาแต่บุกอย่างเดียว
เดินหมากรุกยังต้องคิด เดินหมากชีวิต จะไม่ใช้ความคิดได้อย่างไร”

พุทธสุภาษิต
อกฺโกเธน ชิเน ฏธํ พึงเอาชนะความโกรธ ด้วยความไม่โกรธ
อสาธุ สาธุนา ชิเน พึงเอาชนะความชั่ว ด้วยความดี
ชิเน กทฺริยํ ทาเนน พึงเอาชนะคนตระหนี่ ด้วยการให้
สจฺเจนาลิกวาทินํ พึงเอาชนะคนพูดเหลวไหล ด้วยความจริง